Roon
USD $499 Lifetime Roon data service
รีวิวนี้ มีหลายตอน ที่เขียนอย่างต่อเนื่อง กรุณา อ่านไปจนจบ บรรทัดสุดท้ายนะครับ
ทดลองฟัง File Player App
Roon 1.4
Amarra 4 Luxe
Jriver 23.0.103
HQplayer 3.20.2
Audirvana + 3.2
โปรดทราบ นี่ไม่ใช่รีวิวที่ครอบคลุมในทุกประเด็นอย่างครบถ้วน นี่เป็นแแค่เรื่องการเล่าเรื่องราว ของ end user คนหนึ่ง ที่ทำการทดลองฟัง ตัว demo เพื่อตัดสินใจว่า ต้องการจะใช้งาน File Player ตัวไหนเท่านั้น ผมไม่ได้ทำการ tweak หรือ fine tune app ตัวใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการค้นหาว่า จะปรับตั้ง Hardware, Bios, Firmware หรือ software อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจาก ผมไม่มีทรัพยากร ไม่มีเงินจะไปซื้อ computer มาหลายเครื่อง ปรับสเปคให้เหมาะสม ไม่มีเวลาที่จะค้นว่า ต้องปรับ Bios และ Software เช่นไร สำหรับ App แต่ละตัว นี่เป็นเพียงการทดลองฟัง เพื่อตัดสินใจเลือกซื้อ App แล้วก็เขียนเล่าความรู้สึกให้ฟังเท่านั้น กรุณาอย่าเชื่อตามผมโดยเด็ดขาด ขอให้ทุกๆท่าน โปรดไป download app ทุกตัว มาลองด้วยตัวท่านเอง และ หากท่านใด มีเวลา มีทรัพยากร ที่จะซื้อ app ทุกตัวมาลอง ซื้อ computer มาที่ดีที่สุดสำหรับ app แต่ละตัว มีเวลาที่จะปรับตั้ง fine tune กันไปให้ถึงที่สุด ก็เป็นเรื่องน่ายินดี… แต่สำหรับผม ผมไม่มีปัญญาจะทำการทดสอบในลักษณะดังกล่าครับ ผมทดลอง app ทุกตัวโดยไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น ย้ำ ผมเล่าให้ฟังเฉยๆ อย่าเชื่อผม ความเห็นผมไม่ใช่บทสรุปสุดท้าย และ โปรดไปฟังด้วยตัวท่านเองครับ ก่อนหน้านี้ …
ผมเองใช้ iTune กับ Amara และ Audirvana + มานานพอควร ตลอดเวลานั้น ผมพบว่า iTune มีปัญหาหลายๆอย่างครับ ตั้งแต่ การแปลงไฟล์จาก flac ไปเป็น AIFF พอแปลงเสร็จแล้ว ก็ต้อง add เข้าไปใน iTune ผมพบว่า พอมีไฟล์จำนวนมากๆ iTune จะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การใช้เวลาในการ Load นานมาก และ การจัดการไฟล์ก็มีปัญหา เกิดไฟล์ซ้ำซ้อนขึ้นเต็มไปหมด เกิดการล่าช้าในการเล่น และปัญหาอื่นๆที่น่ารำคาญใจอยู่ทีเดียว
พอหลังจากที่ผม upgrade DAC ของผม เป็น Ayre QX-5/20 ผมก็ตั้งใจว่า คงถึงเวลาที่ผมควรจะทดลองฟัง Music File Player app ใหม่ๆล่าสุดสักครั้ง เพื่อเลือกซื้อมาใช้งานสักตัว ซึ่งผมได้ทำการเลือก Amarra, Audirvana +, Roon, HQplayer, Jriver มาลองฟังครับ ซึ่งคิดว่า ครอบคลุมตัวที่ได้รับความนิยมไว้ทั้งหมดแล้ว สำหรับ Foobar นั้นผมลองฟังไม่ได้ เนื่องจากไม่ทำงานใน Mac ครับ
จาการทดลองฟัง ผมได้ข้อสรุปดังนี้
อันดับ 1
HQplayer
ตัวที่เสียงดีที่สุดคือ HQplayer (hqp) ครับ ผมพบว่า คุณภาพเสียงของ hqp นั้น มีความเข้าใกล้ analog มากที่สุด มากกว่าตัวอื่นๆที่ได้ลองฟัง เสียงมีความเนียนกว่า ละเอียดมากกว่า ละเมียดมากกว่า ให้รายละเอียดเสียงที่ดี โดยเสียงยังคง laid back ไม่ forward ขึ้นมา
แต่… ปัญหาของ hqp คือ user interface ครับ ออกแบบมาจากนรกแท้ๆ ใช้งานยาก และ สับสน การที่จะเล่นไฟล์เพลงนั้น เราจะต้องทำการ add ด้วยตัวเองทุกๆครั้ง hqp ไม่ได้ทำการ scan file แล้วเพิ่มให้เราโดยอัตโนมัติ มิหนำซ้ำ ผม add เข้าไปแล้ว hqp ก็ไม่ยอมแสดงไฟล์เพลงมาให้ผมสั่งเล่น
ในการทดลองฟัง ผมทดสอบด้วยการใส่เข้าไปเพียง สามอัลบั้ม แต่เพียงเท่านั้น ก็ยังทำให้ผมสับสนในการสั่งงาน และ มองไม่เห็นไฟล์เพลงที่ใส่เข้าไป ลองจินตนาการถึง หากผมมีไฟล์เพลงเป็น หลายๆพัน หรือ ขึ้นเป็นหลักหมื่น ? มันจะเป็นนรกขุมไหนกันครับ ?
ทั้งการลืมใส่ไฟล์เข้าไป ใส่เข้าไปซ้ำกันหรือเปล่า ใส่เข้าไปแล้วจะเห็นไฟล์หรือไม่ แล้วก็สั่งให้เล่นไฟล์ได้ยาก.. ครับ ผมต้องกดแล้ว กดอีก กดจนงง มันก็ยังไม่ตอบสนอง เหมือนกับมันหยิ่งๆยังไงไม่รู้ จะเล่น หรือ ไม่เล่น อาจต้องรอให้พี่ hqp แก อารมณ์ดีๆก่อนมั้ง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รู้แต่ว่า มันใช้งานยาก ใช้แล้วผมหงุดหงิด อารมณ์เสียครับ
ดังนั้น ถึง hqp จะมีคุณภาพเสียงดีที่สุด แต่…. ผมรู้ว่า ผมใช้ชีิวิตอยู่กับ hqp ไม่ได้แน่นอนครับ เพราะผมจะมีแต่ความทุกข์ และ คับข้องใจ อยู่ตลอดเวลา และผมจะไม่มีความสุขในการฟังเพลงเลย
อันดับ 2
Roon
Roon เป็นตัวที่ผมให้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ครับ คุณภาพเสียงดีมากครับ ถึงไม่ดีที่สุด แต่ก็ดีเพีียงพอที่ผมจะใช้ชีวิตร่วมกับมันได้ และ Roon ให้เสียงที่ดีกว่า Amarra และ Jriver ครับ แต่จุดเด่นที่สุด ที่ทำให้ผมหลงรัก Roon คือ User interface ระบบการใช้งาน สั่งงาน ของ Roon มันง่าย มันสวย มันสมบูรณ์แบบครับ
เพียงผมใส่ไฟล์เข้าไปใน HDD แล้วให้ Roon ชี้ไปที่ HDD ก้อนนั้น Roon จะทำการ scan file ทั้งหมดที่มี แล้วนำขึ้นมาแสดงให้เห็นโดยครบถ้วน ผมไม่ต้องสั่งอะไรเลย ทุกอย่าง Roon จัดการให้หมด และ หากผมเพิ่มไฟล์เพลงอะไรเข้าไป Roon ก็จะนำเพลงใหม่นั้นๆ มาแสดงให้ผมเห็นเอง โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไร หากผมลบไฟล์ใดออกไป Roon ก็จะเอาเพลงนั้นๆ ออกจากระบบไปทันที โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลยเช่นกัน
โอ… สวรรค์…. นี่ยังไม่นับเรื่อง ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับ ไฟล์ เกี่ยวกับเพลง Roon นำเสนอได้ครบถ้วน และมีประโยชน์มาก หากคุณเป็น Music Lover คุณจะต้องหลงรัก Roon และ Roon จะช่วยให้คุณฟังเพลงด้วยความเข้าถึง และ ความเข้าใจได้ดีขึ้น Roon จะช่วยให้คุณเปิดโลกทรรศ์ในการฟังเพลงได้ดีขึ้น ด้วยการแนะนำแนวเพลงต่างๆให้คุณฟัง Roon มีคำอธิบาย คำวิจารณ์สั้นๆ มาให้อ่าน มีประวัติศิลปิน Roon มีแม้แต่.. ตารางการทัวร์ของศิลปินรายนั้นๆขึ้นมาให้เห็น โอ.. อะเมซซิ่งครับ นอกจากนี้ ผมยังสามารถจะฟังเพลง และ ใช้งาน Roon จากมุมไหนของบ้านก็ได้ มันสามารถแชร์เพลงไปได้หลากหลายวิธี และ หลากหลายอุปกรณ์มากๆครับ การสั่งงานผ่าน remote app ก็ง่าย และ สวยงาม
User interface สวยงามมาก ใช้งานง่ายมากๆ ใช้งานแล้ว ผมหลงรัก Roon ไปเลยครับ
อันดับ 3
Amarra และ Jriver
ผมให้สอง app นี้เสมอกัน เพราะ ดีอย่าง เสียอย่าง กันทั้งคู่
ในแง่ของ เสียงกลาง แหลม รายละเอียด ความนุ่มเนียน Jriver ดีกว่า แต่เบสมีปัญหา
ส่วน Amarra นั้นเบสดี impact ดี แต่ กลางแหลม สู้ Jriver ไม่ได้ครับ
ทางด้าน user interface ของ Amarra นั้น ok นะครับ สวยงามดี ใช้งานไม่ยาก และ มีระบบ scan file ได้ แต่ต้องกดสั่ง scan เองเป็นครั้งๆไป ทางด้านข้อมูลของเพลงนั้น ยังสู้ Roon ไม่ได้เลยครับ ความสวยงาม การค้นหาเพลง การแนะนำ หรือ อะไรอื่นๆ ก็สู้ Roon ไม่ได้ครับ Roon ดีกว่ามาก ไม่ว่าอย่างไร Amarra ก็ไม่ได้ “นรก” เหมือน hqp
แต่ Amara ก็มีข้อผิดพลาดในการแสดงเพลงซ้ำซ้อน และ จัดเรียงลำดับเพลงผิดพลาด ซึ่ง Roon ทำได้ดีกว่า Amarra ครับ
Jriver ก็ ok ครับ พอๆกับ Amarra ในแง่ของการใช้งาน สั่งงาน ไม่ได้เลวร้าย แต่… ก็ไม่ได้โดดเด่น และ เช่นกัน Roon ดีกว่ามากๆ ในแง่ของการใช้งาน user interface และ ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเพลงครับ
App ทั้ง 4 ตัวดังกล่าว ถือว่า ดีทั้ง 4 ตัวครับ ถือว่าผ่านหมด ดังนั้น หากท่านคิดว่า อยากจะหา app มาใช้งาน ผมก็แนะนำว่า ให้ทดลอง load มาใช้งาน และ ทดสอบด้วยตัวท่านเองอีกครั้ง เพราะทดลองใช้ free ครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแต่ว่ามีเวลาใช้งานจำกัดเท่านั้นครับ ดังนั้น ก็ต้องรีบๆลองฟัง รีบๆสรุปว่า ท่านชอบ app ตัวใดมากที่สุด
อันดับ.. โหล่
Audirvana +
ส่วน Audirvana + นั้น เป็นตัวเดียวที่ผมคิดว่า มันหลุดกลุ่มออกมา และ ผมไม่แนะนำ เพราะผมคิดว่า เสียงมันมีปัญหาครับ ผมคิดว่า เสียงของมันนั้น หยาบ และ ขุ่นมัว และ Forward หากคุณมีโอกาสฟัง ก็ลองฟังจับประเด็นพวกนี้ดูนะครับ ผมคิดว่า Audirvana + นั้น สอบตกครับ ผมไม่แนะนำตัวนี้
สำหรับ.. ราคาค่าตัว…….
Roon แพงที่สุด
hqp รองลงมา
และ Amarra กับ Jriver จะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
เรื่องราคานี่ ทุกท่านไปคิดกันเองนะครับ ชั่งใจเอาเอง สำหรับผม ผมยอมจ่ายให้ Roon ครับ โดยผมจะสมัครแบบตลอดชีพไปเลย แบบว่า ยอม “เจ็บ แต่จบ” ครับ เพราะผมคิดว่า มันคุ้มค่าเพียงพอ มันดีเพียงพอ ที่จะทำให้ผมยอมจ่ายเงินให้มัน ซึ่งผมคิดว่า คุ้มค่ากว่าในระยะยาวๆครับ
เพราะ app อื่นๆนั้น ถึงจะมีราคาถูกกว่า แต่อย่าลืมว่า จะมีการ upgrade version เป็นระยะๆ และ ทุกๆครั้งคุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเข้าไปทุกๆครั้ง
ลองคิดดูว่า หากมันยาวนานไปถึงระยะหนึ่ง ยอดสะสมนั้น อาจจะไม่ได้ห่างจาก ราคาตัวของ Roon แบบตลอดชีพ สักเท่าไรก็ได้นะครับ และ อย่างที่บอกแล้วครับว่า ในแง่ของข้อมูลการฟังเพลง user interface ความง่ายในการใช้งานนั้น Roon ชนะขาดครับ ดังนั้น ในระยะยาวๆแล้ว ผมคิดว่า คุ้มค่าราคาค่าตัว และผมยอมจ่ายครับ
สรุป… Enjoy The Music
ผมเลือก Roon ครับ
สำหรับผมแล้ว ผมเน้นความสุขในการฟังเพลงมาก่อนเป็นขั้นต้น ดังนั้น ผมจึงเลือก Roon มาใช้งาน มันดีกว่า iTune เดิมเยอะมาก ในทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ load เร็ว ทำงานเร็ว ไม่ซับซ้อน คุณภาพเสียงดีมาก ที่สำคัญคือ ผมคิดว่า มันคือ app สำหรับ Music Lovers ครับ ไม่ว่า Music Lovers คนไหน ได้มาทดลองใช้ Roon ผมคิดว่า ทุกๆคนจะตกหลุมรัก Roon หมด ไม่มียกเว้นครับ
ผมไม่เลือก hqp เพราะผมรู้ว่า ผมจะต้องเป็นทุกข์ไปตลอดการฟังเพลง และนั่น.. มันไม่คุ้มค่า ไม่ว่าเสียงมันจะดีสักขนาดไหน แต่หากว่ามันทำให้ผม enjoy the music ไม่ได้ แล้วผมจะเลือกมันมาใช้งานทำไม ?
ว่าด้วย.. Hardware
สำหรับ Hardware ที่จะใช้เล่น roon นั้น ทางเลือกก็มีเยอะแยะครับ ที่จะใช้เล่น Roon ได้ อันนี้ ลองเข้าไปอ่านกันเองที่ www.roonloabs.com เขาจะอธิบายกันไว้อยู่ครับ
ผมเองตัดสินใจที่จะซื้อ Roon Nucleus มาใช้งานครับ เพราะต้องการความสะดวก และง่ายครับ แต่ก็ต้องยอมจ่ายเงินมากขึ้นบ้าง ส่วนท่านใดอยากจะประหยัด จะ DIY Intel NUC ขึ้นมาใช้งานเองก็ได้นะครับ แต่ก็ต้องยอมเสียเวลาหา part และ ทำการประกอบด้วยตัวเอง ลง os เอง ลง app เอง คือต้อง Destroy it yourself เอ้ย… Do It Yourself ได้ครับ ฮ่าๆๆ… หาก DIY เองได้ ก็จะประหยัดเงินได้ส่วนหนึ่ง
อ้อ.. มีประเด็นหนึ่งที่ต้องทราบก่อนนะครับ คือ Roon Nucleus นั้น Fanless คือ ไม่มีพัดลม ส่งเสียงให้รำคาญใจ แต่ Intel NUC ที่ลง Rock นั้น มีพัดลมครับ และ user รายงานวา พัดลมเสียงดังด้วย หาทางแก้ไขไม่ได้ด้วย ดังนั้น เขาจึงต้องเอา NUC ออกไปไว้นอกห้องฟังครับ เพราะมันมีเสียงรบกวนมากเกินไป นั่นก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมครับ
หรือ จะใช้ computer ทั่วๆไปใช้งานก็ได้ หรือ ผมจะใช้ Mac Mini ตัวเดิมกับ Roon ก็ได้ แต่ผมตัดสินใจซื้อ Nucleus ดีกว่า เพราะออกแบบมาให้ทำงานกับ Roon โดยเฉพาะ ดังนั้น มันก็จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เร็วขึ้น ดีขึ้นครับ
ก็จบรายงาน การเลือกซื้อ Music File Player App เพียงเท่านี้ครับ อ่านไว้เล่นๆ ไม่ต้องเชื่อ จงไปทดลองฟังเองก่อน แล้วก็เลือกซื้อด้วยตัวเอง ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ ท่านอาจจะเลือกตัวเลือกอื่นก็ได้ ท่านอาจคิดไม่เหมือนผมก็ได้ครับ ขอให้ไปลองด้วยตัวเองก่อนเสมอ ก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไรมาใช้
Happy Listening… & Enjoy The Music ครับทุกๆท่าน
สรุปเรื่อง Roon v.s. HQPlayer
การฟังในครั้งนี้ ผมตัด Amarra & Jriver ออกไป เหลือแค่ Roon กับ HQPlayer ครับ แล้วก็มีการเข้าไปดูเรื่องการปรับแต่งค่าต่างๆพอสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผมยังไม่ได้ลองทุกๆค่าใน HQP เพราะค่ามันปรับได้เยอะเหลือเกิน ลองไม่หมด แค่เอาค่าที่ทางผู้ผลิต HQP แนะนำไว้มาใช้เท่านั้นครับ
ผล.. HQP ก็ยังมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า Roon ครับ โดยที่มีความเป็น analog มากกว่า Roon โดยเฉพาะในการฟังเพลง Jazz เพลงร้อง หรือ Classical
ในส่วนเดียวที่ค่อนข้างใกล้กันคือ เสียงเบสครับ ค่อนข้างใกล้ และ มีบุคลิกเสียงต่างกันนิดหน่อย
โดยสรุปคือ
หากคุณต้องเลือกเพียงตัวเดียว ผมยังคงแนะนำ Roon ครับ
เหตุผล ก็คือ เหตุผลเดิม คือ user interface ของ HQP นั้น มาจากนรก โดยแท้ มันใช้ยากใช้เย็น และ สร้างความคับข้องใจให้ผมอยู่ตลอดเวลาที่ใช้งานมัน
Roon ใช้งานได้ง่ายกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆ ทำให้ผม enjoy the music ได้มากกว่า มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณภาพเสียงของ Roon “ดีพอ” ที่ใช้ฟังอย่างซีเรียส และ ตั้งใจ เสียงของ Roon จะออกไปทาง “สด” มากกว่า HQP เล็กน้อย ดังนั้น หากคุณฟัง เพลง Pop เพลง Rock เป็นหลัก คุณอาจจะชอบ Roon มากกว่า HQP ด้วยซ้ำไปครับ
ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ ใช้ทั้ง Roon และ HQP พร้อมๆกันครับ โดยให้ Roon จัดการด้าน user interface บริหารไฟล์ และ Stream file ไปให้ HQP ทางเลือกนี้ คุณก็ได้ Best of Both World (ในความเห็นของผม)
ข้อเสียคือ ค่าใช้จ่าย ที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก และ ค่าตัวของ HQP ไม่ได้เป็นแบบตลอดชีพเหมือน Roon ดังนั้น มันไม่จบนะครับ หากมี Version ใหม่ไปเรื่อยๆ คุณก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายไปเรื่อยๆเช่นกัน ไม่เหมือน Roon ที่คุณจ่ายก้อนเดียว แล้วจบเลย
ขอย้ำว่า นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผม อย่าเชื่อทันที ขอแนะนำให้ทุกๆท่าน ไป download มาลองฟังด้วยตัวเองก่อน เพราะมัน ทดลองฟังได้ฟรีครับ คุณอาจจะคิดต่างจากผมก็ได้ครับ ก็ลองฟังๆกันดูครับ ว่าคุณจะชอบ app ตัวไหนมากที่สุดครับ
Happy Listening !
Roon v.s. HQplayer ฉบับ Set Zero
เหมือนจะจบ.. แต่ก็ไม่จบ….
ในระหว่างที่ผมค้นข้อมูลเกี่ยวกับ HQP ไปเรื่อยๆนั้น ผมไปพบข้อความของ Charles Hansen ได้ตอบนักเล่นคนหนึ่งไว้ ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับ HQP นี่ละครับ โดย Charles บอกว่า เขาไม่เห็นด้วยเลย กับการใช้ HQP มาทำการ upsamling ก่อนที่จะป้อนสัญญานให้กับ Ayre QX-5 เพราะเขาเห็นว่า วงจรภายในที่เขาออกแบบไว้ใน Ayre QX-5 นั้น ทำงานไ้ด้ดีกว่า HQP การให้ HQP upsampling นั้น เท่ากับเป็นการไม่ได้ใช้งาน Ayre ให้เต็มประสิทธิภาพ
นั่นจึงเป็นการต้อง Set Zero ครับ เพราะในการทดลองฟังมาก่อนหน้านี้ HQP ทำการ upsampling ตลอด โดยเป็นค่า default ที่ติดมากับโปรแกรมเลย และ ใน Roon เอง ก็ upsampling อยู่ด้วย เพราะผมเองก็ไปปรับค่าในส่วนของ DSP engine เอาไว้ด้วย
กลับไปเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ครับ ผมเริ่มด้วยการปิดฟังก์ชันการ upsampling ทั้งหมดลง ปิดทั้งใน Roon และ ปิดทั้งใน HQP ด้วย
ผล ?
กลายเป็นว่า Roon ดีกว่า HQP ครับ
แล้วผมก็ลอง ปรับ HQP ให้ upsampling อีกครั้ง แล้วเทียบกับ Roon ที่ไม่ upsampling
ผล ?
Roon ก็ยังดีกว่า HQP ครับ
โดยที่ผมพบว่า ครั้งนี้ เสียงของ HQP นั้น แห้งกว่า ในขณะที่เสียงของ Roon นั้น ฉ่ำกว่า และมีหางเสียง ฮาร์โมนิคของเสียงดีกว่า Micro Dynamic ดีกว่า
ต้องยอมรับว่า ผมไม่ได้คิดถึงประเด็นเรื่องของการปิดฟังก์ชัน upsampling แล้วปล่อยให้ Ayre จัดการทุกอย่างด้วยตัวเองเลย มัวแต่ไปคิดตามที่คนทั่วไปแสดงความเห็น และ แนะนำว่า ต้องปรับ upsampling กันด้วยค่าเท่าโน้น เท่านี้… ผมก็เลยมุ่งแต่ค้นข้อมูลไปทางด้านนั้นอย่างเดียว
ผมลืมไปว่า… ผมใช้ Ayre QX-5 เป็น DAC และคนอื่นเขาไม่ได้ใช้ Ayre กัน บางคนใช้ DAC ในระดับเริ่มต้นเท่านั้น ลืมจนกระทั่ง Charles มาเตือนผม.. (ขอบคุณครับ Charles)
ผลครั้งนี้ จะสรุปว่าอย่างไร….
ผมคิดว่า… มันสรุปว่า.. คุณภาพเสียงของ Music File Player นั้น มันขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และ องค์ประกอบมากมายเหลือเกิน… ในแต่ละองค์ประกอบนั้น.. มีโอกาสส่งผลต่อเสียงที่ได้ยินทั้งสิ้น
ดังนั้น… หากคุณใช้ DAC อื่นๆ ที่ราคาต่ำกว่า Ayre หรือ มีคุณสมบัติ การออกแบบที่อยู่ในระดับต่ำกว่า Ayre ก็มีโอกาสครับ ที่ HQP จะช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้น หากการ upsampling และปรับค่าต่างๆใน HQP นั้น ทำได้ดีกว่า ตัว DAC เอง
แต่หากคุณใช้ DAC ที่มีคุณภาพดีในระดับแถวหน้า… คงต้องลองฟังเปรียบเทียบกันก่อนว่า ระหว่างให้ HQP จัดการ upsampling กับปล่อยให้ DAC ของคุณทำหน้าที่เองทั้งหมดนั้น อะไรให้เสียงดีกว่ากัน
ผมก็ยังคงคิดว่า จุดเด่นของ HQP คือ ฟังก์ชันการ upsampling และในหลายๆชุด มันอาจเป็นตัวเลือกที่ดีครับ ยังไงก็ยังคงแนะนำให้ทดลองฟังก่อน เพราะอย่างที่บอกแล้วว่า มันขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมายเหลือเกิน….
ในการทดลองฟัง ผมแนะนำว่า ให้หาไฟล์ที่เสียงดีๆนะครับ ให้เน้นเสียงอคูสติคเป็นหลัก ดนตรีอะไรก็ได้ครับ ที่ไม่เน้นไฟฟ้า ฟังเสียงร้อง เสียงกีตาร์โปร่ง เสียง cello เสียงเปียโน ฟังการเคาะโน้ต.. แล้วก็ฟังหางเสียงของมัน ฟัง body ของมัน ฟังความฉ่ำของมัน แล้วจับสังเกตุตรงนั้น จะเป็นจุดที่สังเกตุได้ง่ายครับว่า App ตัวไหน ปรับค่าอย่างไร จะทำงานได้ดีที่สุดใน system ของคุณ
มีอะไรที่ไม่เกี่ยวกับชุด หรือ ปัจจัยต่างๆบ้าง ?
user interface ครับ อันนี้ ยังยืนยัน Roon ดีที่สุด และ ประเด็นนี้ ไม่มีปัจจัยอื่นๆมากระทบแน่ มันทำงานได้รวดเร็ว ดี ใช้งานง่าย ข้อมูลต่างๆดีมาก และ เหมาะกับ Music Lovers จริงๆ
ส่วนเรื่องเสียง… ผมคิดว่า ผมสรุปสำหรับ system ของผมได้แล้วว่า
Roon ครับ
ก็ดีไปอย่าง ผมไม่ต้องเสียเงินซื้อ HQP เพิ่ม ผมไม่ต้องไปค้นเรื่อง Hardware สำหรับ HQP อีกแล้ว และ ไม่ต้องปวดหัวมานั่งทดลองปรับค่า upsampling ใน HQP อีกแล้ว.. เพราะมันใช้ยาก และ ปรับค่าได้เยอะแยะมากมาย จนตาลายไปหมด….
สำหรับคุณๆทั้งหลาย… ก็แนะนำเหมือนเดิม ไป download มาลองเองให้หมด
Roon, HQP, Amarra และ Jriver ทั้ง 4 ตัวนี้ ผ่านทั้งหมดครับ มีคุณภาพเสียงที่ดีทุกตัว
มีตัวเดียวที่ไมผ่านคือ audirvana +
มันอาจเป็นไปได้ว่า ในชุดอื่น ข้อสรุป อาจกลายเป็น HQP ที่ทำการ upsampling ก็ได้ครับ ที่จะให้เสียงดีที่สุด (แต่ user interface ของมัน ผมก็ยังยืนยันว่า มาจาก “นรก” เช่นเดิม)
สำหรับผม… ผมพอแล้ว… หลายอาทิตย์มานี้ เหนื่อยมาก กับการต้องมานั่งตั้งใจฟัง เพื่อ A/B test ไปๆมาๆ
ต่อไปผมขอฟังเพลง ดูหนังของผมต่อ.. ให้สบายใจครับ
Enjoy The Music & Happy Listening ครับ ทุกๆท่าน
ข้อความที่ Charles Hansen ตอบ user เอาไว้ครับ
Hello AustinPop,
Thanks for the input. It is nice to get feedback from the customers. There is always the problem of “price, features, performance – pick any two”. Ayre could offer all of the above with an increased price – then we would have to balance the number of increased sales from adding the features versus losing sales from the higher price. (We refuse to compromise performance.)
– MQA support – will address this in another post.
– Native DSD support has no standards. It requires ASIO drivers and installation. We’ve not even looked into it and have no idea what the costs would be. As far as I can tell the only advantage is the ability to go past DSD-256. I fail to understand what the need for that would be. How many titles are available at DSD-256? How many titles are available at DSD-512? If you want that feature to use “upsampling” from an external program like HQ Player, all you are doing is inserting an extra digital filter in the chain ahead of the digital filter built into the DAC. If you prefer the sound of this to the Ayre digital filter, then either we need to learn how to design better sounding digital filters, or you prefer to color your system to compensate for some deficiency elsewhere. I’ve no idea which is the case. If you would elaborate, that would be helpful.
– Ethernet support past 192kHz. Again, what is the need for this? The only content past 192kHz is solely from minor audiophile labels such as 2L. They offer zero music that I am interested in listening to. Is that what you are after? Or is it again some sort of external “upsampling” external digital filter? There is a very, very small case for DSD-128, as there are perhaps a few dozen titles recorded at that rate. The current processor on the ConversDigital module will not handle higher rates, so that will be at least a year or more away, as explained in a different post.
– I2S is silly in its current implementation as used by a handful of companies with HDMI cable. The clock should be in the DAC and not in the transport.I see little reason to introduce yet another proprietary interface that would only work with some possible future unannounced Ayre transport, and Ayre does not like to do things in sub-optimal ways just because the people who started doing this didn’t think it through properly.
– AES/EBU (and all other S/PDIF variants) cannot transmit DSD except as DoP. That is one of the reasons I helped form a group to develop DoP. I know of no S/PDIF receivers that will go any faster than 192kHz, and Ayre already uses the very highest performing one on the market, so this will request will likely never be physically possible.
Thanks for letting us know what you are looking for. Again if you could elaborate your reasoning for wanting things (other than “specsmanship”), it would be very helpful.
Best,
Charles Hansen