Music NFT เป๋าหนัก พร้อม เปย์ ?

เมื่อครั้งที่เกิดเทคโนโลยี่ MP3 ขึ้นมาในโลก…. เกิด Napster…. เกิดแผ่นผี MP3… เกิด Torrent ….. เกิดการแจกจ่ายไฟล์เพลง… ให้คนได้ฟังกันฟรีๆ หรือ จ่ายเงินน้อยลง นั่นทำให้ โลกของอุตสาหกรรมดนตรี เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย



ค่ายเพลง ศิลปิน ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบอย่างมาก รายได้หดหาย จากที่เคยได้เงินกันมากมาย ค่ายเพลงร่ำรวย ศิลปินร่ำรวย ทำยอดขายเทปได้เป็นล้านตลับ.. ภาพเหล่านั้น หายไปจนหมดสิ้น…. จนกลายเป็นว่า.. หากขายเทป ขาย CD ได้หลักหลายหมื่น หรือ สักแสนหนึ่ง ก็ถือว่า เก่งมากแล้ว… รายได้จากการขายเทป ขายแผ่น แทบจะเรียกว่า ลดไปเหลือ ศูนย์….

อุตสาหกรรมดนตรี.. ก็ยังคงเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ต่อไป… จนมาถึงยุค Streaming แต่.. ศิลปิน ก็ยังคงพบด้วยความขมขื่นใจว่า ตัวเองนั้น ได้รายได้ ไม่คุ้มค่า กับการสร้างสรรค์ผลงาน.. ค่าย Streaming ทุกเจ้า ล้วนทำสัญญาเอาเปรียบ ศิลปินเจ้าของงาน โดยถือว่า platform ของตัวเอง มีอิทธิพลเหนือ ศิลปิน เจ้าของเพลง

จนทุกวันนี้… ศิลปิน ต้องทำด้วยใจรัก แล้ว ไปหารายได้ จากการตระเวณแสดง รายได้จากการขายของที่ระลึก รายได้จากการจัด meet & greet รายได้ที่ได้จากสปอนเซอร์ ที่จ้างศิลปินไปออกงานแทน…

และแล้ว… มันก็มีคำว่า Music NFT เกิดขึ้น และ ในปัจจุบัน ค่ายเพลง และ ศิลปิน หลายๆราย ก็กำลังจะเริ่มต้น หารายได้ จาก Music NFT แต่… Music NFT คืออะไร และ มันทำรายได้อย่างไร ?

ก่อนที่เราจะไปที่ Music NFT เราจะต้องทำความเข้าใจกับคำว่า สินทรัพย์ Digital เสียก่อนครับ
สินทรัพย์ Digital ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Bitcoin

Bitcoin ก่อกำเนิดมาจาก คนกลุ่มหนึ่ง ที่มองว่า ระบบการเงินโลก ทุกวันนี้ ถูกควบคุมโดยรัฐบาลกลาง ที่ทำทุกอย่าง เพือเอื้อประโยขน์ให้แก่ทุนใหญ่ ที่มีอิทธิพลเหนือ รัฐบาลกลาง จึงมีคนที่ต้องการ ก่อกำเนิด เงินตรา สกุลใหม่ ที่ ควบคุมไม่ได้ แทรกแซงไม่ได้ ปิดกั้นไม่ได้.. สามารถใช้จ่าย และ โอนผ่าน ได้อย่างรวดเร็ว อิสระ และ เสียค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด…

Bitcoin จึงถือกำเนิดขึ้น มาเป็นเงินตรา Digital ที่ไม่เคยมีใครจับต้องได้ ไม่เคยมีใครเห็น และไม่รู้แม้กระทั่งว่า ใครเป็นผู้ก่อตั้ง Bitcoin ขึ้นมา ในสมัยแรกๆ Bitcoin แทบจะไม่มีค่าใดๆเลย มีคนใช้ Bitcoin จำนวน หมื่นเหรียญ Bitcoin เพื่อซื้อ พิซซา เพียงชิ้นเดียว.. แต่ในปัจจุบัน… Bitcoin เคยมีราคาขึ้นไปสูงสุด ถึงที่ ประมาณ สองล้านบาท ต่อ Bitcoin จำนวน 1 เหรียญ

เมื่อ Bitcoin เริ่มได้รับการยอมรับ และ มีค่ามากขึ้น ในฐานะของ ​Crypto Currency หรือถือเป็น สกุลเงินตรา Digital ที่บางประเทศถึงกับเอาไปเป็น เงินตราสกุลหลักของประเทศตัวเองก็มี จึงทำให้ มีการพัฒนา Crypto Token ขึ้นมา

Crypto Token นั้น ทำขึ้นมาเพื่อให้มีสถานะเป็น “สินทรัพย์ Digital” ไม่ใช่ “สกุลเงินตรา Digital”
ซึ่งทั้ง Cryptocurrencies และ Crypto Tokens นั้น สามารถทำหน้าที่ทั้งในแง่ของการ เก็บรักษามูลค่า ใช้ในการลงทุน หรือ นำไปแลกเปลี่ยน ซื้อขายได้

และ.. ทั้ง Cryptocurrencies และ Crypto Tokens นั้น สามารถนำมาเทรด ซื้อขาย แลกเปลี่ยนได้ และอยู่ในสถานะที่ Fungible (ซึ่งสามารถ ทดแทนได้) นั่นคือ เหรียญแต่ละเหรียญ จะ **ไม่มี** การใส่อัตลักษณ์เอาไว้ จะเอาเหรียญไหน ไปทดแทน เหรียญไหนก็ได้ เพราะทุกๆเหรียญนั้น เหมือนกันทั้งสิ้น

และแล้ว… ก็มีการก่อกำเนิด NFT ขึ้นมา เป็นสินทรัพย์ digital

NFT ย่อมาจาก non-fungible tokens ซึ่งแตกต่างจาก Crypto Tokens ตรงที่ว่า NFT แต่ละชิ้น จะมีการใส่ อัฒลักษ์ เข้าไป ด้วย built-in authentication จึงทำให้ NFT แต่ละชิ้น ล้วนแตกต่างกัน มีเพียงชิ้นเดียว และไม่สามารถ หาสิ่งอื่นมาทดแทนได้เลย

NFT นั้น สามารถเป็นอะไรก็ได้ เช่น ภาพศิลปะ เกม ลิขสิทธิ์ Digital Identity ใบรับรองสิทธิ์ วิดีโอ และ เพลง… แต่…ประเด็นสำคัญที่ จะทำให้ NFT นั้น มีค่าขึ้นมาได้ จะอยู่ที่คำว่า Non-Fungible คือ มีอัตลักษณ์ อันไม่สามารถทดแทนได้ และ การแสดงสิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของ

ที่แล้วมา.. ภาพ เพลง หรือ อะไรก็ตามที่เป็น digital ก็จะสามารถทำซ้ำ แจกจ่ายได้โดยอิสระ แต่ NFT นั้น จะมีการ ใส่ built-in authentication เข้าไป เพื่อแสดง การพิสูจน์ทราบ ถึงการเป็นเจ้าของ NFT ชิ้นนั้นๆ

ดังนั้น.. จากสิ่งที่ไม่มีค่า ได้มาฟรี copy แจกจ่ายไปซ้ำๆ ก็.. กลับกลายมาเป็นมีค่า ขึ้นมาทันที
เช่น ภาพ Julian Assange and Pak’s Clock ภาพนี้ ถูกขายไปได้ถึง 52 ล้านเหรียญ USD
ครับ ภาพซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรเลย ช้ินนี้ นี่แหละครับ มีแค่คำว่า One Thousand Sixty Four นี่แหละ.. (บ้าบอดี)

แล้วทำไม ถึงได้มีคนยอมจ่ายเงินมากขนาดนี้ เพื่อ NFT ?
คำตอบคือ เพื่อซื้อ การแสดงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ NFT ชิ้นนั้นๆ ครับ
ของชิ้นนี้ มีเพียงชิ้นเดียว ไม่มีทดแทน และ คุณมีสิ่งที่แสดงสิทธิ์ ว่าคุณเป็นเจ้าของ ของชิ้นนั้นๆ

แน่นอน NFT ชิ้นต่างๆ สามารถ copy ทำซ้ำ จ่ายแจก ได้ต่อไป มันก็เหมือนกับว่า เรา copy ภาพของ Van Gogh มาเก็บไว้ใน computer ได้เสมอ แต่เราไม่เคยมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของภาพของ Van Gogh ภาพจริงๆได้เลย หากว่าเราไม่ยอมจ่ายเงินซื้อสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของภาพชิ้นนั้นๆ แล้วเอาภาพมาครอบครองไว้กับตัวเรา

NFT ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า ชิ้นงานจริงๆนั้น ไม่มีให้จับต้องได้ เหมือนภาพของ Van Gogh เพราะมันเป็นเพียง digital art เท่านั้นเอง แต่ Digital art ชิ้นนั้น จะมีการกำกับ แสดงอยู่ตลอดไปว่า คุณเป็นเจ้าของ หากคุณยอมซื้อมันมาครอบครอง

แน่นอน… คำถามที่ทุกคนมี.. คือ… แล้วใครจะบ้าซื้อมัน ?

คำตอบคือ ขายได้จริงๆครับ แม้กระทั่ง โพสต์ใน Twitter ธรรมดาๆ อันหนึ่ง ก็เคยมีการนำมาขายได้ในราคา 2.9 ล้านเหรียญ ก็มี…

และ.. แน่นอน เช่นกัน… ในเมื่อมีกระแส… การหลอกลวง หลงผิด เก็งกำไรพลาด ก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน ทุกวันนี้ มีพวกหลอกลวง หลอกทำ NFT มาขาย เพื่อหาเงินกันมากมาย มีคนที่หลงซื้อ NFT มาในราคาเป็นล้านๆเหรียญ แล้วพบว่า เมื่อเสนอขายต่อ กลับมีคน ขอซื้อต่อในราคาแค่ พันเหรียญ ต้นๆเท่านั้น แต่.. นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะพูดถึงในวันนี้….

เขียนมาตั้งยาว… ยังไม่ได้เข้าเรื่อง Music NFT เลยครับ มากลับเข้าประเด็นกัน…
อย่างที่กล่าวมาแล้ว… NFT ประเภทหนึ่ง ที่มีการนำมาเสนอขายกัน ก็คือ เพลง
ขายกันในฐานะของ Music NFT

อ้าว.. แล้วอย่างที่คุณไปซื้อเพลงมาฟัง จากใน iTune ล่ะ ต่างกันอย่างไร ? ไม่เหมือน Music NFT ตรงไหน ?

การซื้อเพลงใน iTune มาฟังนั้น คุณจ่ายเงิน เพื่อซื้อสิทธิ์ ในการฟังเพลงนั้นๆ เฉยๆ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเพลง ดังกล่าวเลย

คุณอยากจะมีส่วนร่วม ในการเป็นเจ้าของเพลงๆ หนึ่งอย่างแท้จริงหรือไม่ครับ ?
วันนี้ คุณมีโอกาสนั้นๆแล้ว ด้วย Music NFT

สำหรับคนที่ชอบโหลดเพลงมาฟังฟรี.. อย่าตกใจ….. การ copy แจกจ่ายเพลง ฟังกันฟรีๆ จะดำเนินต่อไป ตามปกติ ใครๆก็ฟังเพลงนั้นๆ ได้ฟรีๆ เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

แต่… ไม่ใช่ทุกคน จะได้เป็น เจ้าของเพลงนั้นๆ ซึ่งมี built-in authentication แสดงสิทธิ์ว่า คุณคือ เจ้าของเพลงนั้นๆจริงๆ โดยที่ เพลงหนึ่ง อาจจะผูกไว้กับเพียง 1 NFT หรือ เพลงๆหนึ่ง อาจจะผูกไว้กับ 10 NFT ก็ได้ แล้วแต่ศิลปินจะกำหนด หากว่ากำหนดว่า 10 NFT ในเพลงนั้นๆ คุณก็จะเป็นเจ้าของร่วมกัน กับคนอื่นๆ อีก 9 คน ใน Music NFT เพลงนั้น

คุณจะได้ประโยชน์อะไรอีก จาก Music NFT นอกเหนือจากการได้ สิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของเพลง ?

คุณอาจจะได้ มีความสัมพันธ์ ในระดับพิเศษ กับศิลปิน แตกต่างจากแฟนเพลง ธรรมดา เพราะคุณ pay หนักมาก ในการซื้อ Music NFT
คุณจะได้ช่วย สนับสนุน ศิลปิน ที่คุณชื่นชอบ ให้ลืมตา อ้าปาก มีรายได้ เพียงพอ ไม่ต้องเป็น ศิลปิน ไส้แห้ง
และ… หากว่า ศิลปินคนนั้นประสบความสำเร็จ เพลงนั้นๆ… เกิดฮิต…
สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเพลงนั้นๆ ที่คุณซื้อไว้… ก็อาจจะ… มีราคาซื้อขาย.. พุ่งทะยาน ขึ้นไปสู่ดวงจันทร์… ก็ได้… ใครจะรู้ ?

นอกจากนี้ Music NFT ยังสามารถนำไปใช้แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆได้อีก (ตามที่ศิลปิน กำหนดให้) เช่น
ลดราคาค่าตั๋ว concert ของศิลปิน เจ้าของเพลง
สิทธิ์ Back stage pass
Meet & Greet
เพราะคุณคือ ขาใหญ่ pay หนัก

อ้อ.. ถึงแม้ว่า คุณจะมีสิ่งแสดงสิทธิ์ ในการเป็นเจ้าของเพลงนั้นๆ ผ่าน Music NFT
แต่… คุณจะไม่มีสิทธ์ ในการับผลประโยชน์ อื่นใด ไม่ว่าจะเป็นค่า loyalty หรือ copyright claims นะครับ สิทธิ์ดังกล่าว ยังคงเป็นของศิลปิน เช่นเดิม…
(ในอนาคต อาจมีการเปลี่ยนแปลง ให้มีการได้รับผลประโยชน์มาด้วย แต่ยังคงเป็นแค่แนวคิดอยู่ หากทำสำเร็จ การซื้อ Music NFT อาจกลายเป็นเหมือนการซื้อหุ้นปันผลได้ ในอนาคต)

อย่างไรก็ตาม.. การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรพิจารณา… ผมไม่เกี่ยว….

ราคาซื้อขายของ NFT นั้น จะขึ้นลงไปตาม demand & supply และ ไม่มีเรื่องของปัจจัยพื้นฐานมาปะปนเลย
มันไม่มีปันผล มาค้ำยันราคาให้ เหมือนหุ้นปันผลนะครับ…
หากกระแสมา ราคาก็ขึ้น หากกระแสหาย…. ราคาก็.. ดิ่ง… ลง….

ดังนั้น หากจะซื้อ Music NFT หรือลงทุน หรือ เก็งกำไรใน Music NFT ก็ขอให้คิดให้ดีๆ ก่อนลงทุนนะครับ

แล้วศิลปิน ล่ะ ได้อะไร ?
ดูตัวอย่างง่ายๆครับ มีศิลปิน Rap รายหนึ่ง ได้รายได้จาก Spotify ใน 1 ปี เป็นจำนวนเงิน $178
แต่… เขาขาย Music NFT ของเขาได้ เป็นจำนวนเงินถึง $226,800
ต่างกันอย่างมหาศาลขนาดไหน… คุณคงเห็นได้อย่างชัดเจน….

โลก.. จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป โดยไม่หยุดนิ่ง…
Music NFT คือสิ่งใหม่… ที่ทุกคน ควรทำความรู้ ความเข้าใจ ไว้.. ก็จะเป็นความรู้รอบตัว และ เข้าใจว่า อุตสาหกรรม ดนตรี กำลังเปลี่ยนแปลงไป เช่นไร บ้าง…

ว่าแต่… คุณเตรียมตัวหรือยังครับ ?
คุณจะเป็น แฟนพันธ์แท้ pay หนัก ได้แค่ไหน ?
ด้วย Music NFT ครับ


เห็น ภาพนี้ แล้วขำ ครับ เลยเอามาแบ่งปันกันดู
แต่มันก็เตือนใจ เตือนสติ เราได้ดี เกี่ยวกับ NFT นะครับ
โดยส่วนตัว ผมไม่ลงทุนใน NFT ครับ และ ผมเห็นด้วยว่า สักวัน NFT จะฟองสบู่แตกครับ