เมื่อยักษ์ใหญ่… ต้องเดินตาม แจ็ค…

ในโลกของเครื่องเสียง.. มีบางครั้ง ที่คนตัวเล็ก กลับกลายเป็นผู้นำ ผู้สร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา จนโด่งดัง ได้รับการยอมรับ จนในที่สุด ผู้ผลิตรายใหญ่ ที่มีชื่อเสียง กลับต้องมาเดินตามหลัง คนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรจะสู้ได้ ไม่ว่า จะเป็นด้านเงินทุน หรือ งบโฆษณา..
ตัวอย่างที่ชัดเจนอันหนึ่งคือ Bullet Plug ครับ
Bullet plug กำเนิดขึ้น ด้วยแนวความคิดแปลกใหม่ ที่เน้นให้ หัว RCA มีส่วนประกอบที่เป็นตัวนำ น้อยที่สุด ลำตัวเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ ground ของ Bullet plug เป็นเพียงแท่งตัวนำ แท่งเล็กๆเท่านั้น จุดสัมผัสของ Ground เป็น จุดเล็กมาก
ต่างจาก หัว RCA ในสมัยนั้น ที่ Ground จะเป็นตัวนำที่มีหน้าสัมผัสขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นวงแหวนโอบรัด RCA inlet ไว้โดยรอบ และลำตัวทั้งหมดของ RCA จะเป็นส่วนหนึ่งของ ground ไปด้วย ดังรูปข้างล่างนี้
WBT เป็นผู้ผลิต ที่อยู่ในวงการมาก่อน Bullet Plug นานมาก และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตหัว RCA คุณภาพสูง และ ราคาสูง ด้วยการผลิตที่ ประณีต ใช้วัสดุคุณภาพสูง มีระบบล๊อค ground ของหัว RCA ให้ยึดแน่นกับขั้วต่อ จนในระยะเวลาหนึ่ง ตลาดมีความเชื่อกันว่า หัว RCA ที่ดีที่สุด ต้องเป็น หัวล๊อค ยี่ห้อ WBT
หันกลับมาดู Bullet Plug หัว RCA ที่มาจาก ผู้ผลิต no name ไม่มีใครรู้จัก ผลิตหัว Bullet plug ที่เป็นการปฎิวัติ แนวคิดของหัว RCA ทั้งหมดในอดีต ลำตัวทำจากพลาสติก ที่ดูๆ ไป เกือบจะเหมือนกับของ เด็กเล่น… ดูเหมือนของไม่มีราคา… ใช้วัสดู ที่ดู..ก๊องแกร๊ง… เหมือนจะไม่มีความคงทน ตอนบัดกรี ก็ต้องระวังว่า หากให้ความร้อนสูงเกินไป นานเกินไป หัว Bullet plug ก็อาจเสียหายได้ เพราะโพลิเมอร์จะละลาย ตัวนำ ก็มีขนาดเล็ก ภาพโดยรวมๆนั้น เคยมีนักเล่น พูดว่า Bullet Plug ตั้งราคาขาย สูงเกินจริง เพราะเมื่อดูจาก รูปลักษณ์ภายนอกแล้ว มันไม่ได้มีความน่าเชื่อถือ สมราคาค่าตัวของมันเลยครับ (แต่จริงๆแล้ว ราคาของ Bullet Plug จะขึ้นกับคุณภาพตัวนำที่ใช้ และ ค่าวิชาของ Bullet plug มากกว่าครับ)
แต่แล้ว… ผู้คนก็เริ่มร่ำลือ บอกกันปากต่อปาก ถึงคุณภาพเสียงของ Bullet Plug ชื่อเสียงเร่ิมขจรขจาย.. ผู้คนเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น… มากขึ้น… จากที่มีแต่นัก DIY ซื้อไปทำสายเอง… ก็เริ่มมีผู้ผลิตสาย หลายๆยี่ห้อ หันมาเลือกใช้ หัว Bullet Plug กับสายของตนเอง.. จาก หัว RCA จากผู้ผลิต no name หัว RCA bullet plug สามารถแจ้งเกิดในวงการได้อย่างเต็มภาคภูมิ
หากคุณถามผมว่า.. จุดเด่นมากๆของ Bullet plug คืออะไร ?
ผมคิดว่า คือ ความเคลียร์ ใส ชัดเจน ในเวทีเสียงครับ
และ หัวอย่าง WBT นั้น ผมเคยฟังเปรียบเทียบกับ Bullet Plug ผมคิดว่า หัว WBT นั้น ให้เสียงที่ ขุ่นกว่า และ หยาบกว่า Bullet plug ครับ (ความเห็นส่วนตัว กรุณา ใช้วิจารณญาน ในการอ่าน และ อย่าเชื่อ จนกว่า จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง)
และด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ และ คุณภาพเสียงที่เป็นที่เลื่องลือ มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด WBT ก็ออกหัว RCA รุ่น NextGen series ออกมา โดยที่จะเห็นได้ชัดว่า WBT ได้เปลี่ยนแนวคิด เรื่องของ ground ของ RCA ไปจากเดิม อย่างชัดเจน และ จะเห็นได้ว่า มีส่วนประกอบที่เป็นตัวนำน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราคงเห็นได้ชัดเจนว่า WBT NextGen นั้น ได้รับอิทธิพล แนวคิดมาจาก Bullet Plug ครับ เพราะหากไม่มี Bullet Plug เราก็คงไม่ได้เห็น WBT NextGen ในวันนี้… แน่ๆ
ในปัจจุบันนี้ ผู้ออกแบบ Bullet Plug ได้ ออกมาตั้งบริษัทใหม่ และ ออกสินค้าเป็นหัว RCA ยี่ห้อ KLE รุ่น Harmony Series ซึ่งเป็นการพัฒนา ปรับปรุงมาจากหัว Bullet Plug อีกทีครับ ทั้งในแง่ตัวนำ การชุบ จุดบัดกรี และ โครงสร้างที่ มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมครับ ท่านสามารถหาซื้อหัว KLE ได้ที่ link นี้ครับ http://www.avbestbuy.com/catalog/index.php?cPath=25_48 KLE เป็นหัว RCA ที่ท่านควรลองหาโอกาสได้ฟัง ได้ใช้งาน ใน system สักครั้งครับ
ผลิตภัณฑ์ อีกอย่างหนึ่งที่ ยักษ์ใหญ่ ต้องเดินตาม แจ็ค คือ… ตุ้มน้ำหนัก Heavy Weight ของ Expressimo ครับ
ก่อนหน้าที่ Expressimo จะนำเสนอตุ้มน้ำหนัก Heavy Weight ออกมานั้น ตุ้มน้ำหนักของ Tonearm Rega RB-300 นั้น จะมีลักษณะเป็นสมมาตร ในการติดตั้ง ดังรูปข้างล่าง รูของตุ้มน้ำหนักนั้น จะอยู่ที่จุดศูนย์กลาง
Expressimo ได้นำเสนอ Heavy Weight ในฐานะของอุปกรณ์ Tweak อาร์ม Rega RB-300 โดยที่ เปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงของตุ้มน้ำหนักเสียใหม่ ให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ย้ายตำแหน่งของรูของตุ้มน้ำหนักให้เยื้องขึ้นมาด้านบน
ผลคือ การเกาะร่องของ Tonearm ที่ดีขึ้น และ ส่งผลให้เสียงของอาร์ม RB-300 ดีขึ้นในทุกมิติ จนได้รับความนิยม และ ยอมรับ กันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งในทุกวันนี้ ผู้ผลิต Tonearm อีกหลายราย ก็หยิบยืม แนวคิด จุดศูนย์ถ่วงต่ำของ Heavy Weight ไปใช้กันอย่างแพร่หลายครับ
โดยปกตินั้น.. เรามักจะเห็นผู้ผลิตรายเล็กๆ copy แนวคิด มาจากบริษัทรายใหญ่ๆ เสมอ.. บางครั้ง บางกรณี ก็ถึงขั้นทำเป็นสินค้า ปลอมแปลง ตรายี่ห้อ กันขึ้นมาทีเดียว.. แต่ก็มีบางครั้งนะครับ ที่ผู้ผลิตรายใหญ่ กลับต้องกลายเป็นฝ่าย เดินตาม และ ได้รับอิทธิพล แนวคิด มาจากผู้ผลิตรายเล็กๆ ที่มีแนวคิด นวัตกรรม ใหม่ๆ ขึ้นมาในวงการครับ