Roger Waters / Us And Them / Bluray

Roger Waters / Us And Them / Bluray
Performance 8/10
Picture 9/10
Sound 9/10

The Pros and Cons of Us+Them

บันทึกการแสดงสดของ Roger Waters ครั้งหลังสุด ซึ่งเป็นทัวร์สนับสนุนผลงานใหม่ของ Roger ที่ชื่อ “Is This The Life We Really Want ? ” ซึ่งน่าเสียดายที่ Roger ไม่ได้มาเล่นที่เมืองไทย ไม่งั้นผมจะไปดูแน่นอนครับ อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีที่ยังทำแผ่น Bluray มาให้ดู ดังนั้น เราก็มาว่ากันถึง ข้อดี ข้อเสีย ของ Us+Them แผ่นนี้กันนะครับ

ในแง่ของ Production ของ Tour นี้ นับว่าทำมาได้ดีมากครับ ทั้งเวที แสง สี เสียง Roger จะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ show ของเขาเสมอ เวทีจะเป็นเหมือนสมัยนิยมตอนนี้คือ ฉากหลังจะเป็นจอฉายภาพขนาดใหญ่ โดยที่วงดนตรีจะเล่นอยู่ด้านหน้า

แต่… สิ่งที่พิเศษคือ.. จอฉายภาพขนาดใหญ่ อันที่สอง ซึ่งชักรอกขึ้นลงได้ วางตัวตามแนวยาว จากหน้าเวที ไปยัง ที่นั่งด้านหลังของสนามกีฬา จอภาพที่สองนี้ จะชักรอกลงมา ตอนที่เริ่มเล่นเพลง Dog ครับ โดยฉายเป็นคลิปภาพประกอบเพลงที่กำลังเล่นอยู่ ซึ่งทำมาได้สวยมาก โดยเฉพาะตอนที่เริ่มฉายเป็นภาพหน้าปกของแผ่น Animals ของ Pink Floyd

โดยที่มี หมู สีชมพู ลอยอยู่เหนือ โรงไฟฟ้าถ่านหิน Battersea เหมือนในหน้าปกแผ่น Animals ทำมาได้ดีมาก และ สวยมากครับ เห็นแล้วประทับใจ แต่จะว่าไป จอในลักษณะนี้ U2 ก็เคยใช้มาก่อนนะครับ ซึ่งก็ทำมาได้ดีมากเช่นกัน U2 ถึงกับเข้าไปเล่นดนตรี อยู่ในจอดังกล่าว ประกอบกับภาพ Video ที่ฉายประกอบกันไปสดๆเลย

อย่างไรก็ตาม จอแบบนี้ มีข้อเสียอยู่คือ.. คนดูที่อยู่ใต้จอแบบค่อนข้างใกล้ จะเห็นอะไรไม่ชัดนัก และ คนดู ที่นั่งอยู่ด้านหลังของสนามกีฬา ในแนวเดียวกับ แนวของจอ ก็แทบจะไม่ได้เห็นอะไรเลย และ จอดังกล่าว ยังแบ่งสนามกีฬาออกเป็นสองส่วน และ คนดูแต่ละครึ่ง ก็จะไม่เห็นเวที อีกด้านหนึ่งทั้งหมด ซึ่งหากว่า ใช้จอแบบนี้อยู่ตลอดเวลาก็คงไม่เป็นผลดีนัก แต่ Roger เลือกที่จะใช้กับเพลงสองเพลง จากแผ่น Animals คือ Dog กับ Pig ดังนั้นก็ถือว่า กำลังดีครับ

อีกไอเดียหนึ่งที่ต้องชมว่า ดีมาก และ ทำมาได้สวยมาก นั่นคือ การพยายามจำลองหน้าปกแผ่น Dark Side Of The Moon มา โดยฉายลำแสงเป็นรูป ปิรามิด พร้อมกับลำแสง 7 สีที่วิ่งออกมาจาก ปิรามิด ทำมาได้สวยมากครับ ต้องชม

คลิปภาพที่ฉายประกอบเพลง ตลอดการแสดง ทำขึ้นมาอย่างประณีต บรรจง สวยงาม ทุกๆภาพ ทุกๆช๊อต ไม่มีอะไรที่สุกเอาเผากินเลย นับว่า Roger ตอบแทนแฟนๆที่เข้ามาดูโชว์ของเขาอย่างเต็มที่ครับ ต้องชม เรื่อง Production ของ show นี้มากๆ

ในแง่ของ performance…. มันก็มีทั้ง Pros และ Cons เช่นกันครับ
Pros… ดูเหมือนการเล่นครั้งนี้ Roger ต้องการจะเล่นให้ Sound เหมือนกับ ต้นฉบับของ Pink Floyd ดังนั้น หลายๆช่วง หลายๆครั้ง จะเป็นการเล่นแบบ “เล่นเหมือนแผ่น” ให้ได้ยินกัน sound และ Tone ของดนตรี ตั้งใจให้ Tone และ อารมณ์แบบ Pink Floyd เป๊ะๆ Roger เลือกคนที่มาร้องท่อนของ Dave ให้มีลักษณะเสียงร้องคล้ายๆกัน (แถมยังไว้ผมทรงเดียวกับ Dave สมัยหนุ่มๆ อีกต่างหาก ชนิดดูไกลๆ นึกว่า Dave วัยหนุ่มมาเองเลยทีเดียว

ซึ่งตรงนี้ หากว่าเราเคยดูการแสดงในอดีตของ Roger เขาจะไม่ค่อยยอมเล่นให้เหมือน Pink Floyd สักเท่าไร ใน Part ของ Dave นั้น จะเลือกคนที่เล่นต่าง และ ร้องต่างไปจาก Dave อย่างชัดเจนเลย ไม่เหมือนเที่ยวนี้ครับ ที่ดูก็รู้ว่า จงใจ เลือกมาให้ คล้าย และ ใกล้เคียง

Cons…. ไม่ว่าอย่างไร นักดนตรี Backup ก็ไม่ใช่ David Gilmour ครับ
จริงอยู่ว่า บางช่วงนั้น หากให้ผมหลับตา ผมฟังไม่ออกนะครับ ว่าต่างจาก Dave ยังไง เพราะเล่นได้เหมือนมากๆ ชนิดให้หลับตาฟัง ผมอาจบอกว่า Dave เล่นเองก็ได้ครับ แต่.. มันมีหลายๆเม็ด หลายๆครั้ง ที่ผมฟังออกว่า นี่ไม่ใช่ Dave Gilmour เล่น ถึงเขาจะพยายามเล่นให้เหมือน… แต่มันก็ไม่เหมือนครับ…. นั่นคือ ตั้งใจเล่นให้เหมือน แล้ว เล่นไม่ได้….

แต่มีอีกแบบคือ… ตั้งใจเล่นให้ไม่เหมือน…
ปัญหาคือ พอเล่นแล้ว… มันสู้ Dave ไม่ได้ครับ อย่างเช่น Solo ของเพลง Comfortably Numb เล่นยังไง ก็สู้ Dave ไม่ได้ เพราะ Dave เล่นมาได้สมบูรณ์แบบมากๆ ชนิดที่ผมคิดว่า.. คงไม่มีใครจะสามารถเล่น Solo เพลงนี้ได้ดีกว่า Dave อีกแล้วครับ อีกเพลงหนึ่งคือ Wish You Were Here ในท่อนสุดท้ายที่ Dave เล่น solo ไปด้วย และร้องคลอไปด้วย เพลงนี้ เล่นยังไงก็ยังสู้ Dave ไม่ได้เหมือนกัน Dave เล่นได้น่าฟังกว่าเยอะ นี่ขนาดว่า เหมาคนเดียวทั้ง solo ทั้งร้องนะครับ นักดนตรีของ Roger ตั้งหลายคนช่วยกัน ยังสู้ Dave เล่นคนเดียวไม่ได้เลย

ในอีกหลายเพลง มีการเรียบเรียงดนตรี ให้ต่างไปจากต้นฉบับอยู่บ้าง ซึ่ง Roger น่าจะอยากสร้างความแปลกใหม่ เป็นของขวัญให้กับคนฟัง แต่… ข้อเสียคือ… มันสู้ต้นฉบับไม่ได้ โดยเฉพาะในเพลง The Great Gig In The Sky เขาตั้งใจจะร้องให้ต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน แต่มันสู้ของเดิมไม่ได้ครับ ของเดิม เพราะกว่ามาก ซึ่งอันนี้ ก็ไม่รู้จะว่ายังไง เพราะทั้ง Roger และทีมงาน ก็คงตั้งใจดี.. และ ทำเต็มความสามารถแล้ว… แต่… ของเดิม มันดีสมบูรณ์แบบ… จนไม่ควรไปแตะต้องเลยครับ… ผมนึกไม่ออกจริงๆว่า จะทำให้ดีไปกว่าต้นฉบับได้อย่างไร….

แม้กระทั่ง เพลงหลายๆเพลง ที่ Dave ร้องไว้ แล้ว Roger เอามาร้องเอง ก็ร้องสู้ Dave ไม่ได้ครับ โดยเฉพาะในเพลง Brain Damage / Eclipse ให้ลองฟังจากที่ Roger เล่น แล้วลองไปฟัง Version ในแผ่น PULSE ของ Pink Floyd ดูนะครับ จะเห็นได้ชัดเจนว่า ในช่วง Peak ของเพลง อารมณ์ของเพลงในแผ่น PULSE “มันถึง” กว่าเยอะ และ เยอะมากๆครับ ชนิดคนละเบอร์เลย การจบโน้ตสุดท้ายในแผ่น PULSE นั้น ให้อารมณ์ที่มันสุดๆจริงๆ สุดๆกว่ามากๆ

แต่.. โดยรวมๆแล้ว… ถือว่า ดีครับ เพียงแต่ว่า บางเพลงนั้น อย่าไปนึกถึงที่ Dave, Nick, Rick เล่นไว้ในอดีตแล้วกันครับ ให้ถือว่า… เราควรดีใจ ที่ได้เห็น Roger ยังคงแข็งแรง และยังคงสามารถร้องและเล่นดนตรี ให้เราฟังได้ ดี โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่า ผิดหวัง แต่อย่างใด…. เพราะถึงผมจะรู้ว่า Roger จะเล่นได้ไม่เหมือน Pink Floyd เต็มวงเล่น ผมก็จะยังคงไปดู เขาแน่นอนครับ หากว่า เขามาเล่นที่เมืองไทย หรือ ในประเทศใกล้ๆแถวนี้…

เพลงที่เลือกมาเล่น… Roger เลือกเพลงตั้งแต่ช่วงกลางของวง มาถึงช่วงท้ายๆของวง โดยตัดเพลงในยุคแรกทิ้งไปหมด และเล่น 3 เพลงจาก อัลบั้มล่าสุดของเขา เพื่อเป็นการโปรโมทแผ่นใหม่ครับ

Roger ยังคงสอดแทรก ความคิดเห็นทางด้านการเมือง สังคม เข้ามาในการแสดงของเขา ตลอดจนบทเพลงที่เขาเขียน ก็เป็นการวิพากษ์ วิจารณ์ การเมือง เรื่องราวต่างๆในสังคมเสมอมา อย่างเที่ยวนี้ การเล่น เพลง Dog กับ Pig นั้น เขาก็ตั้งใจที่จะเอามาร้อง เอามาเล่น เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้… ดังนั้น ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของ Roger ครับ แฟนๆรู้กันอยู่แล้ว

สิ่งที่น่าดีใจอีกอย่างคือ… ผมได้เห็น คนฟัง หนุ่มสาวรุ่นใหม่… มาดู Roger ครับ และ อาการของแต่ละคนนี่… แสดงออกถึงการที่รู้จักงานของ Pink Floyd เป็นอย่างดี ไม่ใช่พวกขาจร ที่มาดูตามแฟชั่น แบบ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว อะไร… ก็นับว่า น่าดีใจ ที่มีคนรุ่นหนุ่มสาว รู้จัก และ ชื่นชอบงานของ Pink Floyd ชนิดที่เรียกว่า เป็นแฟนตัวจริงกันทีเดียว..

ผมเองก็ไม่รู้ว่า เราจะได้เห็น Dave , Roger และ Nick ออกมาเล่นดนตรี ให้พวกเราได้ดูกันอีกนานแค่ไหน เพราะ สังขารของทั้งคนเล่น และ คนดู ต่างก็ร่วงโรยกันไปตามกาลเวลา….

แต่… มีสิ่งเดียวที่ผมคิดว่า … จะอยู่คงทนไปตลอดกาล นั่นคือ… เสียงดนตรี แห่ง Pink Floyd ครับ

คุณภาพของภาพ และ เสียง… ดีมากครับ

แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่แผ่น 4K UHD HDR ไม่งั้น ภาพคงจะสวยกว่านี้ขึ้นไปอีกระดับ
คุณภาพเสียงของแผ่นนี้ ดีมากครับ ดีในทุกแง่มุมทีเดียว เสียงในทุกย่านดีหมด dynamic , impact ดีหมด หากจะให้ติ คงเป็น ตอนเร่ิมต้นของเพลง One Of These Days ตอนท่ีต้องมีเสียงกลอง ย้ำมาติดๆกันนั้น ผมคิดว่า เสียงมันเบาไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร และ ในตอนต้นของเพลง The Happest Days Of Our Lives นั้น เสียงเบส และ กลอง สู้ในแผ่นเสียงไม่ได้เลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไรเหมือนกันครับ อาจจะเป็นเพราะการ mixed หรือ อะไร ผมไม่ทราบจริงๆ

The Pros And Cons of Us+Them…. แผ่นนี้…..
ชั่งดูแล้ว…​ ขัอดี มีมากกว่าครับ….
และผมก็มักจะวิจารณ์แบบ พูดถึงข้อเสียมากกว่าข้อดี… ก็อย่าเข้าใจผิดว่า แผ่นนี้ไม่ดีนะครับ แผ่นนี้ดี คุ้มค่า ทุกบาท ทุกสตางค์ ครับ แนะนำสำหรับแฟนเพลง Pink Floyd ทุกๆท่าน ตลอดจนแฟนเพลงทุกรุ่น ทุกวัย ที่อยากฟังเพลง และ ดูการแสดงสด ที่ดีๆ ไม่ควรพลาดแผ่นนี้ครับ…. แนะนำครับ !

Track listing
“Speak to Me” (Played on tape, with parts of the vocal track from “When We Were Young”)
“Breathe”
“One of These Days”
“Time / Breathe (Reprise)”
“The Great Gig in the Sky”
“Welcome to the Machine”
“When We Were Young” (Shortened version without the vocal track)
“Déjà Vu”
“The Last Refugee”
“Picture That”
“Wish You Were Here”
“The Happiest Days of Our Lives”
“Another Brick in the Wall (Parts II & III)”
“Dogs”
“Pigs (Three Different Ones)”
“Money”
“Us and Them”
“Brain Damage” (with vocal intro)
“Eclipse”